Web 3.0 เป็นอีกก้าวหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงในโลกอินเทอร์เน็ต ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในโลกของดิจิทัลในอีกไม่นาน รวมถึงจะกลายเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีระบบกระจายศูนย์อีกด้วย เนื่องจาก Web 3.0 ใช้การทำงานของ Blockchain ที่เป็นระบบ Decentralized แปลว่าหลังจากนี้เราไม่จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือการตรวจสอบแบบเดิมๆอีกต่อไป เช่น ใช้บริษัทเอกชน หรือสถานบันต่างๆในการตรวจสอบข้อมูล รวมถึงการตรวจสอบโดยรัฐ
แต่ความท้าทายสำคัญอีกอย่างคือ Web 3.0 กำลังจะทำให้โลกดิจิทัลของเราเปลี่ยนไป หลังจากที่ Mark Zuckerberg ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อจาก Facebook เป็น Meta เพื่อเตรียมการเข้าสู่โลกของ Metaverse และด้วยการประกาศที่โด่งดังนี้ ทำให้ต่อมาได้มีการพูดถึงเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ เช่น NFTs, Cryptocurrency, AI, VR, AR, Blockchain และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานส่วนหนึ่งในยุคของ Web 3.0 และจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโลกของธุรกิจดิจิทัลอย่างไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่า Web 3.0 จะพลิกโฉมโลกดิจิทัลอย่างไร และธุรกิจต่างๆมีการปรับตัวอย่างไร แล้วในอนาคตนักการตลาดดิจิทัลควรเน้นอะไรเป็นหลัก
ก่อนจะมาถึง Web 3.0
ในยุคของ Web 1.0 เริ่มต้นด้วยการมีเว็บไซต์พื้นฐานง่ายๆ และ HTML เท่านั้น แต่หลังจากเริ่มมี Social Media เข้ามากลายเป็นยุค Web 2.0 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นเพราะการเข้ามามีบทบาทของ Social Media ตัวอย่างเช่น เจ้าของเพจไม่สามารถดึงข้อมูลของผู้ติดตาม เช่น นามสกุล ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ออกไปใช้งานบนแพลตฟอร์มอื่นได้ เพราะติดตัวกลางคือ Social Media Platform ที่ใช้อยู่นั่นเอง Web 3.0 เป็นอีกขั้นหนึ่งของอินเทอร์เน็ตที่ทุกๆอย่างจะเชื่อมต่อกันอย่างโปร่งใส ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของข้อมูลของตัวเองได้อย่างเต็มที่ และไม่ต้องมีตัวกลางมาสร้างปัญหา หรือจำกัดความต้องการให้วุ่นวายอีกต่อไป
ธุรกิจในโลกของ Web 3.0
ในยุคของ Web 3.0 และการประกาศตัวของโลก Metaverse ทำให้ธุรกิจต่างๆพากันออกไอเดียที่สร้างสรรค์ และแปลกใหม่เยอะขึ้น เรียกได้ว่า อะไรที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น ก็จะได้เห็นกันคราวนี้แหละ ตัวอย่างที่เห็นชัดเลยก็คือ AI Influencer ที่หลายๆแบรนด์ และเอเจนซี่ต่างประกาศเปิดตัว จนได้รับความสนใจกันอย่างล้นหลาม AI Influencer ยังช่วยตัดปัญหาตัวเลือกพรีเซนเตอร์ และทำให้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่พรีเซนเตอร์คนจริงๆอาจสร้างความเสียหายเมื่อไหร่ก็ได้ หรืออีกตัวอย่างคือการที่แบรนด์ดังมากมายต่างพากันออกสินค้าเพื่อสร้างรายได้ผ่าน NFTs หรือใช้เป็นคะแนนสะสมสำหรับโปรโมชั่นของแบรนด์นั้นๆเอง เห็นได้เลยว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นอนาคตของอุตสาหกรรม หรือธุรกิจในรูปแบบต่างๆเลยก็ว่าได้
Web 3.0 กับการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing)
การตลาดในยุค Web 3.0 มีอะไรที่มากกว่าแค่การมีเว็บไซต์ หรือการทำ SEO ที่นักการตลาดสายดิจิทัลหลายคนกำลังเผชิญกันอยู่ ยุค Web 3.0 การตลาดจะต้องเน้นไปที่การปรับปรุง และสร้างการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการยกระดับการทำโฆษณาออนไลน์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้ AI มาวิเคราะห์เพื่อทำ Personalized Marketing ทำให้ได้เป้าหมายที่ตรงกลุ่มมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้ AI ในกระบวนการต่างๆ เช่น ระบบแนะนำ (Recommendation) เพราะ AI จะทำการเก็บข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลนั้นให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้รายคนไป ทำให้เกิดความแม่นยำ และไม่ซ้ำกันแน่นอน การพัฒนานี้จะส่งผลให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากสินค้าของเรามากขึ้น
นักการตลาดกับอนาคตในยุค Web 3.0
นักการตลาดควรจะโฟกัสที่ประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นหลัก ให้ความสำคัญกับ UX/UI และเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น สำหรับนักการตลาด ต่อไปนี้การคิดแคมเปญ อาจจะไม่ใช่แค่การแปะป้ายลดราคา โพสโปรโมทสินค้า หรือส่งอีเมลให้กลุ่มนักช้อป แต่อาจจะเป็นการใช้ VR, AR หรือ Deep Fake เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองสินค้าแบบ Real Time เป็นการเพิ่มประสบการณ์การซื้อที่แปลกใหม่ให้กลุ่มลูกค้าเพื่อให้เกิดความสนใจ ในส่วนของ Content Creator อาจจะไม่ใช่แค่บล็อกโพสต์ หรือวิดีโอ แต่เป็น NFTs
ธุรกิจต้องยกระดับความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือ เพื่อที่จะเข้าสู่ยุค Web 3.0 ที่ตั้งอยู่บนโครงสร้างระบบการกระจายอำนาจ (Decentralized Structure) หรือเทคโนโลยี Blockchain ที่ผู้ใช้ทุกคนต่างเป็นเจ้าของข้อมูล และเจ้าของผลงานของตนเอง รวมถึงการสร้างรายได้ที่ไม่ต้องผ่านตัวกลางอีกต่อไป เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามามีบทบาท และเป็นสีสันในวงการธุรกิจ และในโลกดิจิทัลมากขึ้นทั้งในปัจจุบัน และอนาคต