ถอดบทเรียนการตลาดจาก Coca Cola ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองทั่วโลก

ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง ข้าวยากหมากแพงในปัจจุบัน
ทำให้ธุรกิจหลายที่ต้องรัดเข็มขัด ตัดลดงบประมาณการตลาด
และเน้นไปที่การผลักดันการขาย เช่น ลด แลก แจก แถม เพื่อเพิ่มยอดขายสินค้า
และบริการให้กับธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายๆธุรกิจกำลังทำกันอยู่ในปัจจุบัน
แต่แบรนด์ Coca Cola
กับทำสิ่งที่ตรงกันข้ามนั่นก็คือการเพิ่มงบประมานทางการตลาด
และลงทุนแคมเปญ เพื่อสร้าง Value ให้กับสินค้า และผู้บริโภค
ถึงแม้ราคาของเครื่องดื่มแบรนด์นี้จะเพิ่มขึ้น แต่ก็ฟันยอดขายจนพุ่งไปถึง 12%
ภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ ในบทความนี้
เราจะมาดูกันว่าโมเดลการตลาดรูปแบบใหม่ของ Coca Cola คืออะไร
และมีวิธีการอย่างไรในการเพิ่มยอดขาย และสร้าง value ให้กับลูกค้าของเขา

Coca Cola ได้ทดลองกลยุทธ์การตลาด และไต่ระดับไปเรื่อยๆจนออกมาเป็น Global แคมเปญที่เราเห็นกัน ซึ่งแคมเปญเหล่านี้ได้ออกแบบมาเพื่อกระตุ้น passion ในตัวของผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น แคมเปญของ Coke Studio ที่เน้นด้านดนตรี ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปากีสถาน และได้พัฒนาจนเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดเพลงตลอดเวลา แคมเปญนี้เน้นช่องทางในด้านดิจิทัลเป็นอันดับแรก หรือที่เรียกว่า Digital first  เพราะต้องการที่จะโฟกัสความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี โดยใช้ประโยชน์จากรหัส QR Coca-Cola ที่เพิ่งโปรโมตไปในงาน Coke Summer Music ด้วยการเปิดใช้งาน AR บน Snapchat ในขณะที่แบรนด์ Sprite ก็พึ่งปล่อยแคมเปญโปรแกรมเพลงระดับโลกไปก่อนหน้านี้ได้ไม่นาน

ในทำนองเดียวกันในงาน Global Magic Weekends ที่จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นผู้บริโภคทางด้านเกมส์ และดนตรี ทาง Coca Cola ก็ได้เข้าไปจัดแคมเปญ เพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยการจัดโปรโมชั่นแลกซื้ออาหารคู่กับเครื่องดื่ม Coca Cola เป็นคอมโบเซต จนในท้ายที่สุดก็ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก รวมถึงเครื่องดื่มโคคาโคล่าสูตรน้ำตาล 0% ก็ได้กระตุ้นยอดได้มากถึง 50% จากร้านต่างๆภายในงาน และยังสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุน้อย วัยรุ่น หรือคนเจนใหม่ๆได้อีกด้วย นอกจากแคมเปญเหล่านี้ โคคาโคล่ายังได้ผลตอบรับที่ดีจากนวัตกรรมการผลิต ที่มาจากการทดลองใช้แพลตฟอร์ม Coca-Cola Creations ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้พัฒนาเครื่องดื่มรสชาติต่างๆ สิ่งที่น่าสนใจคือนี่เป็นเพียงช่วงแรกที่เริ่มใช้แพลตฟอร์ม แต่กลับได้ผลลัพธ์ดีเกินคาด! ตัวอย่างเครื่องดื่มรสชาติใหม่ๆที่ได้มาจาก Coca-Cola Creations ก็คือ Fanta Dragon Fruit Zero Sugar, Minute Maid Aguas Frescas และ Coke Starlight ซึ่งสินค้าใหม่ๆนี้ได้มาจากช่องทางดิจิทัลทั้งหมด! นอกจากนี้ แคมเปญการตลาดของโคคาโคล่าก็ได้รับความสนใจจากธุรกิจอื่นๆ เพื่อนำไปเป็นแรงบันดาลใจ และปรับใช้กับสินค้าของตนเอง

หลายๆบริษัทก็เริ่มใช้ช่องทางดิจิทัลเป็นที่แรก ในการที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุน้อย ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆไปด้วย ตัวอย่างเช่น แบรนด์ SmartWater ที่ใช้ประโยชน์จากคอนเทนต์ชวนกินในช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยมีนักแสดงชื่อดังอย่าง Zendaya มาร่วมจอยในวิดีโอด้วยเช่นกัน อีกตัวอย่างคือ แบรนด์ Vitaminwater ที่ได้ทำสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกับนักร้องชื่อดังอย่าง Lil Nas X เพื่อโปรโมทสินค้าผ่านช่องทาง TikTok เป็นที่เรียบร้อย

จากเคสตัวอย่างงานนี้บอกได้เลยว่า การนำสินค้าไปเสนอ หรือร่วมขายในงานวัฒนธรรม หรืองานรื่นเริงต่างๆ เช่น คอนเสิร์ต งานกาชาด งานวัด งานเทศกาลดนตรีต่างๆ อย่างในประเทศไทย ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตลาด เพราะนอกจากจะเพิ่มยอดขายแล้ว ยังเป็นโอกาสให้กับแบรนด์ที่ต้องการมีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุน้อย ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ยากที่จะเข้าถึงผ่านการโฆษณาทางทีวี หรือกลยุทธ์การตลาดแบบดั้งเดิมที่เคยใช้กันในกลุ่มคนรุ่นก่อนๆ

การพัฒนาสินค้าเสริมกับการใช้เทคโนโลยีช่วย ไปจนถึงการใช้ช่องทางดิจิทัลเป็นช่องทางแรกเพื่อทำการตลาด นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกธุรกิจต้องมีในยุคนี้ และด้วยปัญญาเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น ก็ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้หลายธุรกิจต้องหาทางออก และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าให้กับแบรนด์ตนเอง แต่อย่างที่บอกว่าหลายๆบริษัทเน้นการขายมากเกินไป จนลืมสร้างประสบการณ์ทางการซื้อขายให้กับผู้บริโภค เลือกที่จะประหยัดต้นทุนโดยการตัด หรือลดงบฝ่ายการตลาดลง ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีที่ผิด เพราะการที่จะสร้างสินค้าให้มีคุณค่า และยั่งยืนได้ต้องมาจากกลยุทธ์การตลาดที่ดี และสร้างสรรค์ การลดงบการตลาดก็เหมือนจำกัดความสร้างสรรค์ อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี หรือขายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หวังว่าบทเรียนทางการตลาดของแบรนด์ Coca Cola จะเปลี่ยนความคิด และมุมมองที่มีต่อการตลาด เพื่อคงไว้แก่ประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ และการเพิ่มมูลค่าในตัวของสินค้า เหมือนกับแบรนด์ Coca Cola ที่แม้ราคาจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังสามารถสร้างยอดขายได้ รวมถึงยังสามารถชนะใจผู้บริโภคได้แบบยั่งยืน แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจแบบใดก็ตาม

Source : https://www.marketingdive.com/news/coca-cola-increase-marketing-spend-price-hikes/628230/